เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการอดอาหารแบบ IF หรือ การอดอาหารแบบเป็นเวลานั้นเอง แต่รู้หรือไม่ว่าการอดอาหารในรูปแบบการทำ IF นั้น จะสามารถช่วยปลดล็อคการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้ร่างกายมีช่วงเวลาในการพักฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนต่างๆ ด้วยวิธีการธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าหากเราจะบอกว่าการทำ IF นั้นมีข้อดีหมดทุกอย่างก็อาจจะไม่ถูกทั้งหมด สล็อตออนไลน์ เพราะอย่างที่เราได้เห็นในข่าวเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องของเด็กนักเรียนที่ทำ IF จนทำให้ร่างกายเกิดอาการช็อกจนไม่เกิดการเผาผลาญนั้นก็เป็นเรื่องจริง
ซึ่งทั้งหมดนั้น ในวันนี้เราจะมาแนะนำ พร้อมปรับความเข้าใจกันใหม่เกี่ยวกับวิธีการทำ IF ที่ถูกต้อง และปลอดภัยกับตัวเราเอง
การทำ IF มักเป็นสิ่งที่ใครหลาคนเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร เพราะด้วยวิธีการทำนั้นคือการอดอาหาร ซึ่งนั้นเป็นเพียงแค่วิธีเบื้องต้นที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ข้างเคียงคือช่วยให้น้ำหนักเราลดลงนั้นเอง if ลดน้ำหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว IF คือการจำกัดเวลาการรับประทานอาหาร และเลือกการบริโภคอาหารตามเวลานั้นๆ
การทำ IF นั้น จะเป็นการทำเพื่อให้กลไกภายในร่างกายของเรากลับมาทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติเกษตรกรรม และการปฏิวัติอุตสาหกรรม ตลอดจนถึงในปัจจุบัน มนุษย์เราเริ่มรับประทานอาหาร 3 มื้อเรื่อยมา ซึ่งการรับประทานอาหารครบ 3 มื้อนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง และผิดเสียทั้งหมด
เพราะในช่วงเวลาการเจริญเติบโตของมนุษย์แต่ละช่วงวัย และสาขาวิชาชีพที่ประกอบอยู่นั้น มีความต้องการพลังงาน และสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป ทำให้คนที่ทำงานออฟฟิศ มีการเคลื่อนไหวน้อย สามารถมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้ง่ายกว่าคนที่ทำงานตากแดด หรือใช้แรงงาน
ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่มากเกินความจำเป็น จนระบบการทำงานภายในร่างกายของเราส่วนใหญ่ ต้องเสียเวลาไปกับการเผาผลาญอาหาร และจัดสรรสารอาหารส่วนเกินไปอยู่ในที่ต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายไม่เกิดการนำไขมันที่สะสมเอาไว้ออกมาใช้นั้นเอง
สำหรับวิธีการทำ IF ที่จะทำให้ร่างกายสามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ และปลอดภัยต่อตนเองที่ได้รับการรองรับจากงานวิจัยสาขาต่างๆ และผู้ที่ทำ IF นั้นก็คือ การทำ IF สูตร 16/8 และ 14/10 ซึ่งทั้ง 2 สูตรนี้นั้นเป็นสูตรที่เหมาะแก่คนทุกเพศ แต่อาจจะไม่ถูกวัย เพราะอย่างที่บอกไปการทำ IF นั้นอาจจะไม่เหมาะกับเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาของร่างกายกำลังพัฒนานั้นเอง
ในสูตร 16/8 นั้นจะเหมาะแก่การทำ IF มากที่สุด ทั้งผู้ที่เริ่มต้น และผู้ที่ต้องการทำแบบระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เพราะสูตรนี้นั้น จะเป็นสูตรที่ยังให้ช่วงเวลาการรับประทานที่ใกล้เคียงกับปกติที่สุด โดยจะแบ่งเป็นการรับประทาน 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง ซึ่งหากใครเริ่มต้น ขอแนะนำว่าให้เริ่มรับประทานอาหารตั้งแต่ 12 นาฬิกา หรือ เที่ยง และไปจบที่มื้อสุดท้ายก่อน 6 โมงเย็นจ้า เพื่อที่คุณจะได้นอนหลับแบบท้องไม่ร้อง
สำหรับสูตรนี้จะเป็นสูตรที่เป็นการดัดแปลงมาจาก 16/8 นั้นเอง ซึ่งสูตรนี้นั้นจะสามารถช่วยให้เราไม่เครียดเกินไปในการทำ IF ร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาวแน่นอน
นอกจากทั้งสองสูตรที่แนะนำไปนั้น ยังมีสูตรที่ทำได้ยากขึ้นอีกมากมาย ทั้งการทำ 19/5 หรือ Fast5
ทำ IF อย่างไรให้ถูกวิธี ที่เป็นการรับประทานอาหารเพียงแค่ 5 ชั่วโมงต่อวัน และการอดอาหารแบบ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์แบบ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมี 5/2 ที่เป็นการกินปกติ 5 วัน และอดอาหาร 2 วันอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการทำ IF แบบหักโหมเกินไป อาจจะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ เนื่องจากร่างกายของเราถูกปรับเปลี่ยน และวิวัฒนาการมาให้เกิดความเคยชินต่อการรับสารอาหารในจำนวนมากเกินความจำเป็น เป็นระยะเวลาหลายปีแล้วนั้นเอง
ปลดล็อกศักยภาพของร่างกายด้วยการทำ IF
แน่นอนว่าการทำ IF นั้นนอกจากที่จะทำเพื่อการลดน้ำหนักแล้ว คนส่วนใหญ่ที่ทำ IF แบบจริงจัง จะทำเพื่อเป็นการปลดล็อกศักยภาพการทำงานของร่างกายให้กลับมาดีเป็นปกตินั้นเอง โดยการทำ IF นั้น จะสามารถช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายอยู่ในสภาวะปกติ
เช่นการที่ร่างกายสามารถมีช่วงเวลาที่รู้สึกหิว และนำไขมันที่สะสมไว้ในส่วนต่างๆ ออกมาใหญ่ การเผาผลาญไขมันในร่างกายก็จะเกิดขึ้นตามมา และเมื่อร่างกายทำงานตามปกติที่ควรจะเป็นแล้ว การทำงานภายที่ปกติจะต้องใช้ไปกับการย่อยสารอาหารที่มากเกินความจำเป็น ก็จะหันไปทำงานในส่วนต่างๆ เช่นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ทำให้ลดความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยตนเอง และการลดไขมันในเลือดซึ่งเป็นผลจากการที่ร่างกายต้องดึงพลังงานไขมันต่างๆ มาใช้นั้นเอง
ข้อแนะนำ ในการทำ IF หรือการลดน้ำหนักชนิดอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นการทำ คีโต (การลดน้ำหนักด้วยการรับประทานไขมันดี) หากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินขีดจำกัดของร่างกาย ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งวิธีการสังเกตก็คือ หากเราทำอะไรที่ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนเกินไป ให้เราลองพิจารณาดูก่อนว่า เรากำลังหักโหมเกินไปหรือป่าว