โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบันกำลังเกิดการระบาดหนักในต่างประเทศ ซึ่งทำให้หลายคนเกิดความวิตก กังวลใจ และเกิดความสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของโรค อาการ หรือการป้องกัน
โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่พบครั้งแรกเมื่อ 60 ปีก่อน มีต้นกำเนิดจากประเทศคองโก พบการติดเชื้อในห้องแล็บจากสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น สามารถติดต่อได้จากสัตว์สู่คน ติดเชื้อได้จากสัตว์กัดแทะทุกชนิด จากการสัมผัสสารคัดหลั่ง ตุ่มหนองของสัตว์ การรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ปรุงไม่สุก และการติดต่อจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสโดยตรง การไอ จาม หรือละอองฝอยจากลมหายใจ น้ำหนอง การใช้ของร่วมกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
ปัจจุบันมีการแบ่งโรคฝีดาษลิงออกเป็น 2 สายพันธุ์ ได้แก่
ฝีดาษลิง อาการของโรคจะคล้ายๆกับโรคอีสุกอีใส แต่จะไม่รุนแรงเท่า ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตัว ปวดหลัง มีตุ่มผื่น หนองขึ้นตามตัว และต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งจะเป็นข้อสังเกตที่ชัดเจนของโรคนี้ จะเกิดบริเวณ คอ ไหปลาร้า ข้อศอก รักแร้ เป็นต้น หรือการสัมผัสเช่น การจูบ ก็สามารถติดเชื้อได้ อาการ 1-2 วันจะเริ่มมีแผลในปาก และผื่น ขึ้นที่ตัว หน้า ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
ช่วง 2-4 สัปดาห์ จากผื่นก็จะกลายเป็นตุ่มน้ำใส และตุ่มหนองจะเป็นช่วงที่สามารถแพร่เชื้อได้สูงสุด แล้วเป็นฝี ต้องรอให้ตุ่มหนองแตกออกหรือแห้งเอง ผู้ป่วยจึงจะอาการดีขึ้น แต่ก็จะมีรอยแผลเป็นที่เกิดจากโรค
ปัจจุบันก็ยังไม่มีการรักษาโรคแบบจำเพาะ แต่ก็จะมีการรักษาตามอาการ หรือบรรเทาอาการ หากพบผู้เสี่ยงติดเชื้อจะต้องแยกจากผู้อื่น เป็นเวลา 21-28 วัน จนกว่าผื่น หรือตุ่มใสๆจะแห้ง
สำหรับผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย แนะนะให้ฉีดวัคซีนภายใน 4 วันหลังการสัมผัส เพื่อป้องกันการเกิดโรค และฉีดวัคซีนภายใน 14 วันเพื่อลดความรุนแรงของโรค
ได้มีการยืนยันแล้วว่าผู้ติดฝีดาษลิงรายแรกอยู่ที่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นชายไนจีเรีย และที่เป็นข่าวที่น่าตกใจคือ ชายคนนั้นได้มีการหลบหนีการรักษาที่โรงพยาบาล ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจ เพราะกลัวการแพร่เชื้อ แต่ท้ายที่สุดก็สามารถตามจับได้ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
ประเทศไทยยังไม่ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นโรคติดต่ออันตราย ให้คงเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังไปก่อน ฝีดาษลิง (Monkeypox) คืออะไร เนื่องจากยังไม่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในประเทศ และเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ อธิบดีกรมควบคุมโรคก็ได้ออกมาแถลงว่า ฝีดาษลิงไม่ได้มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต สามารถใช้มาตรป้องกันโรคเหมือนโควิด19 คือการล้างมือและเว้นระยะห่าง
ซึ่งการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยก็ยังสามารถป้องกัน สล็อต โรคโควิด-19 กับโรคไข้หวัดใหญ่ได้อีกด้วย
ให้ผู้ป่วยอยู่แยกจากผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย และใส่เสื้อคลุมปกปิดร่างกายที่เป็นผื่น จนกระทั่งผื่นหรือตุ่มเริ่มสะเก็ต
ทั้งผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีเพื่อป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษในอดีตก็สามารถช่องป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ แต่ประเทศไทยได้มีการยกเลิกการปลูกฝีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 หากเกิดหลังปี พ.ศ. 2523 จะยังไม่เคยได้รับการปลูกฝีแน่นอน ส่วนคนที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2517 เป็นช่วงเวลาที่ก้ำกึ่งต้องตรวจสอบโดยแพทย์เฉพาะทางว่าเคยผ่านการปลูกฝีหรือไม่
ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง กล่าว่า การที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวในประเทศที่อยู่ในเขตการติดเชื้อถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลที่สุดของโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะที่ด่าน สนามบินต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และมีการตรวจสอบผู้คนหรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศว่าไปที่ไหนมา มีอาการป่วยหรือไม่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลในส่วนนี้แล้ว อีกส่วนหนึ่งที่ต้องระวังคือสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะเลี้ยงสัตว์ฟันแทะ การนำสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาโดยไม่รู้ที่มาก็เป็นสิ่งน่ากังวลและควรเฝ้าระวัง เพราะถึงแม้สัตว์จะเป็นพาหะนำโรคแต่อาการของสัตว์จะไม่แสดงออกชัดเจน แต่ก็สามารถมีการติดเชื้อจากสัตว์สู่คนได้
“สำหรับการป้องกันโรคฝีดาษลิง สุขอนามัยที่เราป้องกันโควิด-19 ในขณะนี้สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้เช่นกัน เพราะโรคฝีดาษลิงจะติดได้จากสารคัดหลั่ง การเว้นระยะห่างกัน 1-2 เมตร ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และแอลกอฮอล์เจล หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่มีประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการ ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคนี้ได้” อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องความพร้อมในด้านวัคซีนโรคฝีดาษ กรรมการแพทย์ยืนยันว่า ประเทศไทยยังมีวัคซีนอยู่ แม้จะยกเลิกการฉีดไปนานแล้ว แต่ก็ยังเก็บรักษาวัคซีนไว้เป็นอย่างดี หากเกิดการระบาดอย่างหนัก หรือมีความจำเป็นต้องใช้ก็สามารถนำมาใช้ได้ทันที