ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันสองวันนี้ เราเชื่อว่า ทุกคนคงเริ่มหันมาให้ความสนใจกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง ในวันนี้เราจึงจะขอเป็นตัวแทนมาบอกเล่าเรื่องราวของสายน้ำที่เรียกได้ว่าในยุคสมัยหนึ่ง แม่น้ำเจ้าพระยา เคยเป็นเส้นทางการคมนาคม หรือเส้นทางสัญจรหลักของประเทศไทย และนอกจากนี้ยังมีความสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจของไทยเราเป็นอย่างมาก ตั้งแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบัน ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
และนอกจากนี้ เราจะมาทิ้งท้ายกับเรื่องราวที่ยังหาคำตอบไม่ได้ จนชาวบ้านที่อยู่อาศัย และใช้ชีวิตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เล่ากันปากต่อปากว่า แม่น้ำเจ้าพระยา นั้น มีอาถรรพ์เฮี้ยน ที่ใครหลายคนยังไม่เคยรู้
เปิดประวัติ ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายสำคัญของไทย
ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญต่อคนไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งความสำคัญนี้ ไม่ใช่ความสำคัญที่เฉพาะแค่ผู้คนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงเท่านั้น แต่ความสำคัญนี้ครอบคลุมไปถึงเศรษฐกิจ การเมือง และภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น และหายไปโดยที่เรายังไม่ทันรู้สึกตัวเลยว่า ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้นั้น มีส่วนช่วยต่อการหายไปของภัยพิบัติต่างๆ มาหลายต่อหลายครั้ง
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ยังไม่มีการระบุถึงต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างแน่ชัด แต่เราก็มีข้อมูลให้ได้ศึกษาเบื้องต้นจากพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถูกจดบันทึก และระบุไว้เมื่อปี พุทธศักราช 2041 ในช่วงยุคสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ของไทยเรา ในช่วงนั้นได้มีการสั่งให้ขุดลอกคลองหลายต่อหลายแห่ง เนื่องจารการสัญจรทางน้ำนั้นยังถือได้ว่าเป็นการสัญจรหลักของไทยอยู่แม่น้ำเจ้าพระยา
เรือเล็กเรือใหญ่ได้มีการสัญจรไปมาในเส้นทางแม่น้ำสายเล็กๆ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ได้เล็งเห็นว่า การสัญจรทางน้ำที่เป็นการสัญจรหลักนั้นมีความตื้นเขินมากเกินไป และเรือลำใหญ่นั้นก็ไม่สามารถเดินทางผ่านไปมาได้อย่างสะดวก ซึ่งเหตุการณ์เล่านี้นั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ การค้าการขายที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศไทย และต่างชาติ ด้วยเหตุนี้เอง แม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้มีการสั่งขุดลอกคลองให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น จนได้ไปขุดพบกับเทพารักษ์ 2 องค์ ภายในแม่น้ำ ได้แก่ พระยาแสนตา และพระยาบาทสังขกร และได้มีการตั้งชื่อบริเวณชุมชนที่ขุดเจอนี้ว่า บางเจ้าพระยา จนได้นำชื่อ บางเจ้าพระยา นี้นั้นมาใช้เป็นชื่อ “แม่น้ำเจ้าพระยา” จวบจนถึงปัจจุบันนี้
ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเจ้าพระยานั้น เป็นการรวมตัวกันของแม่น้ำ 2 สาย นั้นก็คือ แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน โดยในจุดนี้นั้น ใครหลายคนมักจะสับสนว่า แม่น้ำเจ้าพระยา มีต้นกำเนิดจากมาแม่น้ำทั้ง 4 สาย คือ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ต้นกำเนิดของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานั้น มาจากจุดเริ่มต้นของแม่น้ำเพียงแค่ 2 สาย นั้นก็คือ แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน เพียงเท่านั้น
โดยมีการเริ่มต้นมาจากปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ซึ่งในจุดนั้นเป็นการรวมตัวของแม่น้ำทั้งสองสายที่กล่าวมาได้แก่ แม่น้ำน่าน และแม่น้ำปิง ที่มาบรรจบโดยผ่านการรับน้ำจากทิวเขาถนนธงชัย และทิวเขาผีปันน้ำ หลังจากที่มาบรรจบเข้าเป็นลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ส่วนหนึ่งได้มีการแยกออกไปอีกทางหนึ่งจนเรียกแม่น้ำที่แยกออกมาสายนั้นว่า แม่น้ำท่าจีน นั้นเอง
การเดินทางทุกเส้นทางล้วนแล้วแต่ต้องมีจุดจบกันทั้งสิ้น แม่น้ำเจ้าพระยา ก็เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่รวบรวมวัฒนธรรม ธรรมชาติ ประเพนี บอกเล่าผ่านสายน้ำมาตั้งแต่แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน จนบรรจบกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา และการไหลของสายน้ำที่บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้นั้น ก็เดินทางไปจบลงที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ สล็อตออนไลน์ ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย
ด้วยเหตุนี้เอง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เรามักจะได้พบเจอกับสถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติปลาชายเลนเป็นส่วนมากในพื้นที่ฝั่งสมุทรปราการ ชลบุรี หรือ ระยอง เหตุเพราะฝั่งตะวันออกของไทยที่เป็นอ่าวไทยนั้นเป็นแหล่งที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลผ่านไปจบลงที่อ่าวไทย ทำให้น้ำจืด กับน้ำเค็มผสมกันจนกลายเป็นน้ำกร่อยนั้นเอง
มาถึงตอนนี้เราคงได้รู้จักเรื่องราวของแม่น้ำเจ้าพระยา ในส่วนของการเดินทาง และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชื่อแม่น้ำสายนี้กันไปแล้ว แต่เรื่องที่เราจะบอกเล่ากันต่อไปนี้นั้น คุณเคยรู้หรือไม่ว่า ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีอีกชื่อหนึ่งว่า “สุสานเจ้าพระยา”
อย่างที่เราได้ทราบข่าวกันไปแล้วนั้น ก่อนหน้านี้แม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้ ได้ครากชีวิตมนุษย์ไปแล้วมากมาย มีทั้งเรื่องของการฆ่าตัวตาย การช่วยเหลือผู้ที่ต้องการฆ่าตัวตายจนตัวเองนั้นต้องกลายเป็นผู้เสียชีวิตเสียเอง และแม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้ เคยเกิดเรื่องสะเทือนขวัญชาวกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่กับ โศกนาฏกรรมหมู่ โป๊ะเรือล่มที่พรานนกอีกด้วย
ทั้งหมดนี้นั้นเกิดมาจากความเชื่อในเรื่องของทำเลที่ตั้งของเมืองหลวง และแม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้ โดยแม่น้ำเจ้าพระยาสายนี้นั้นมีการวิ่งไหลผ่ากลางเมืองหลวงอย่างชัดเจน ในด้านความเชื่อ ฮวงจุ้ย และโหรศาสตร์แล้วลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การที่กรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองหลวงของไทยนั้น มีแม่น้ำสายใหญ่ตัดผ่ากลางเมืองหลวงแบบนี้ จะทำให้เมืองหลวงมีประสบปัญหาผู้คนฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก มีเรื่องทุกข์ร้อนใจเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดพักกับประชาชนที่อาศัยอยู่ และถ้าหากใครที่คิดว่าจะมาฆ่าตัวตายที่แม่น้ำสายนี้แล้วละก็ ความคิดนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนไปได้แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว