ขอบคุณรูปภาพจาก google.com
ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทย ได้เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 หลากหลายสายพันธุ์มากยิ่งขึ้น โดยในวันนี้นั้น ประเทศไทยเราต้องพบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ตั้งแต่ สายพันธุ์อู่ฮั่น สายพันธุ์แรกเริ่มของการแพร่ระบาด มาจนถึงสายพันธุ์เบต้า หรือ สายพันธุ์ แอฟริกาใต้ พี่ใหญ่ที่สุดของสายพันธุ์โควิด เหตุที่เรียกโควิด สายพันธุ์ แอฟริกาใต้ ว่าเป็นพี่ใหญ่นั้น เพราะผลกระทบจากการที่เราติดเชื้อสายพันธุ์ “เบต้า” นั้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อ มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุด และยังพบด้วยว่ายังมีการต่อต้านวัคซีนที่มีการจำหน่ายจ่ายแจกอยู่ในประเทศไทยตอนนี้
และก่อนที่เราจะไปเจาะลึกกันกับเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ “เบต้า” เรามาลองทำความรู้จักกันกับเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ กันดูก่อน เพื่อเป็นการที่เราจะได้รู้จัก เข้าใจ และเฝ้าสังเกตอาการได้ดีหาเราพบว่ามีคนรอบตัว หรือเราไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะสามารถทำให้เรามีโอกาสติดได้
ในปัจจุบันนี้ (อัพเดทวันที่ 9 กรกฎาคม 2564) ระบุว่า ทั่วโลก มีการค้นพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย โดยสายพันธุ์ที่ถูกบันทึกไว้ขั้นต่ำในตอนนี้มีอยู่ด้วยกันถึง 10 สายพันธุ์ ซึ่งยังไม่รวมกับสายพันธุ์หลัก สายพันธุ์ “อู่ฮั่น” ซึ่งสายพันธุ์ทั้งหมดที่ถูกบันทึก และมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการทั้งหมดเราจะแห่งตามกลุ่มที่ WHO (องค์การอนามัยโลก) ได้ทำการจัดกลุ่มไว้ว่าเป็น “เชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวล” และเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ ดังนี้
ขอบคุณรูปภาพจาก google.com
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ B.1.1.7 เป็นเชื้อที่มีการพบครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรอังกฤษ ณ เมืองเคนต์ ในเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งสายพันธุ์ อัลฟา นี้นั้นเป็นสายพันธุ์ที่เพิ่งเริ่มเกิดการระบาดในประเทศไทย โควิดสายพันธุ์ เบต้า เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมานั้นเอง ด้วยการแพร่ระบาดจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่มีการกล่าวอ้างว่า 1 ในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเป็นคณะรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่อยู่ฝ่ายรัฐบาล และจากเหตุการณ์นั่นนั้นเอง จึงทำให้ประชาชนชาวไทยทุกวันนี้ยังต้องพบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง
ความร้ายแรงของเชื้อไวรัส สายพันธุ์ อัลฟา สายพันธุ์ อัลฟา ถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่มีการติดต่อกันจากคนสู่คน ได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม มากถึง 40 – 90% มีผลการเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ถึง 1.65 เท่า และทั้งหมดนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อมีความจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจมากขึ้น เพราะในการพบการติดเชื้อไวรัส สายพันธุ์ อัลฟา นั้น ผู้ป่วยจะมีสภาวะปอดอักเสบขั้นรุนแรงตามมา และในผู้ใหญ่อาการเหล่านี้นั้นจะส่งผลขั้นรุนแรงเพียงแค่ 7 – 10 วัน ก่อนจะเสียชีวิต
ขอบคุณรูปภาพจาก google.com
ชื่อวิทยาศาสตร์คือ P.1 สายพันธุ์นี้ เป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดเริ่มต้นจากเขตพื้นที่ป่าแอมะซอนในช่วงเดือนธันวาคม 2563 แต่ในเวลานั้นยังไม่มีการตรวจพบเชื้อสายพันธุ์ แกมมา เจอในเวลาต่อมา เชื้อไวรัสโควิด สายพันธุ์ แกมมา ได้ถูกพบเจอครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น โดยมีการตรวจสอบ และพบว่าเป็นการเริ่มการแพร่ระบาดมาจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปท่องเที่ยวที่บราซิล สายพันธุ์ แกมมา ยังเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่มีการประกาศการค้นพบในไทย นั้นนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งที่ลงเหลืออยู่ในตอนนี้
ความร้ายแรงของเชื้อไวรัส สายพันธุ์แกมมา นั้นก็คือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์ แกมมา นี้นั้นสามารถแพร่กระจายเชื้อออกไปได้มากถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม หรือ สายพันธุ์ อู่ฮั่น นั้นเอง หากเราทำการเปรียบเทียบเป็นค่าเฉลี่ยแล้ว อาการโควิด แยกตามสายพันธุ์ การแพร่ระบาดของเชื้อ สายพันธุ์ แกมมา นั้นจะอยู่ที่ 25 – 60% จากสายพันธุ์ดั้งเดิม และในการโจมตีมนุษย์ของสายพันธุ์ แกมนานั้น เป็นการโจมตีโดยเข้าไปลดภูมิคุ้มกันของเราลง โดยสายพันธุ์ แกมมา นี้ยังสามารถทำลายภูมิคุ้มกันได้ของทั้งผู้ที่รับวัคซีนแล้ว และผู้ที่เคยผ่านการติดเชื้อแล้วร่างกายได้มีการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตนเองอีกด้วย โดยทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราได้ยินข่าวว่าประเทศบราซิล มียอดผู้เสียชีวิตสู้เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
หรือ สายพันธุ์ แอฟริกาใต้ ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ B.1.351 สายพันธุ์เบต้าเป็นสายพันธุ์ที่ถูกพบครั้งแรกที่ ประเทศแอฟริกาใต้ เมือง อีสเทิร์นเคป ณ อ่าวเนลสันแมนเดลา ซึ่งในการพบเชื้อในครั้งนี้ส่งผลกระจายเป็นวงกว้างอย่างมาก และประเทศไทยเรานั้น มีการพบเชื้อสายพันธุ์ เบต้า แล้วครั้งแรกที่จังหวัด นราธิวาส ภาคใต้ของประเทศไทยนั้นเอง โดยการพบเชื้อนั้นพบว่า เป็นการพบเชื้อจากการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายโดยไม่มีการผ่านการคัดกรอง
ความร้ายแรงของเชื้อไวรัส สายพันธุ์เบต้า ก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อที่มีความไวกว่าเชื้อไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 50% ซึ่งในการแพร่เชื้อที่รวดเร็วนี้ ยังส่งผลให้ร่างกายของเราติดเชื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย สล็อตออนไลน์ ด้วยความร้ายแรงของการกลายพันธุ์ ทำให้เชื้อไวรัส สายพันธุ์ เบต้า สามารถหลบหลีกจากภูมิคุ้มกันที่เราได้รับจากวัคซีน นอกจากนี้ยังสามารถลงประสิทธิภาพของวัคซีนที่เราได้รับอีกด้วย ซึ่งไวรัส สายพันธุ์ เบต้า นี้ได้มีการประกาศการค้นพบผู้ติดเชื้อภายใน กทม. แล้ว
ขอบคุณรูปภาพจาก google.com
หรือ ก่อนหน้านี้ที่เรารู้จักกันในชื่อ สายพันธุ์ อินเดีย สายพันธุ์นี้ ถือได้ว่าเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีความน่ากลัวไม่แพ้กับสายพันธุ์ เบต้า เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยการแพร่ระบาดมีสามารถทำได้รวดเร็วจนทำให้ประเทศอินเดีย พบผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก
ความร้ายแรงของเชื้อไวรัส สายพันธุ์เดลตา นั้นก็คือ การแพร่กระจายตัวได้รวดเร็ว ซึ่งในความรวดเร็วนี้ จากการเปรียบเทียบแล้วนั้น ยังมีผลเพิ่มขึ้นเพียง 20% จากสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่ผลข้างเคียงของการติดเชื้อนี้นั้น สามารถทำลายล้าง ร่างกายมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังสามารถบอกได้ว่า หากมีการจำกัดวงกว้างของการแพร่เชื้อได้ สายพันธุ์เดลตา ก็ยังไม่ใช่สายพันธุ์ที่น่ากังวลเท่ากับ สายพันธุ์ เบต้า และสายพันธุ์ แกมมา
สายพันธุ์อื่น ๆ ที่กำลังเป็นที่เฝ้าระวัง และต้องจับตามอง
นอกจากสายพันธุ์ที่ถูกกล่าวไปข้างต้นแล้ว WHO (องค์การอนามัยโลก) ยังได้เปิดเผยชื่อเพิ่มอีก 7 สายพันธุ์ ที่กำลังเป็นที่เฝ้าระวัง และอัพเดทสายพันธุ์เหล่านี้อยู่เสมอ เพราะมีผลวิจัยรายงานออกมาแล้วว่า ทั้ง 7 สายพันธุ์นี้ มีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ ที่รุนแรงกว่า 4 สายพันธุ์ในตอนนี้ ซึ่งทั้ง 7 สายพันธุ์ นั้นมีชื่อเรียกทางการแล้วว่า สายพันธุ์ เอปไซลอน, สายพันธุ์ ซีตา, สายพันธุ์ อีตา, สายพันธุ์ ธีตา, สายพันธุ์ ไอโอตา, สายพันธุ์ แคปปา และสุดท้าย สายพันธุ์ แลมบ์ดา